จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศิลปกรรมศาสตร์ ห้องล้างรูป
ว่ากันว่าห้องล้างรูปรวมของศิล’กรรมน่ากลัวที่สุด นอกจากเรื่องเห็นขาแกว่งแล้ว ยังมีแสงลูกไฟสีต่างๆ แวบไปแวบมาในห้องล้างรูปอีกด้วย
(ซึ่งห้องล้างรูปจะต้องมืดหรืออาจให้มีแสงสีแดงได้สีเดียว) บางทีก็มีเสียงเก้าอี้นั่งรอล้างรูปดังอี๊ดอ๊าด ทั้งๆ ที่ไม่มีคนนั่งรอ หรือนิสิตบางคน ได้ยินเสียงคนตบแท็งค์น้ำในห้องล้างรูปทั้งๆ ที่ไม่มีคนอื่นในห้อง ว่ากันว่านิสิตขอให้คณะย้ายห้องหลายครั้งแต่คณะไม่มีงบฯ อันนี้เป็นข้อมูลหลายปีแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ย้ายห้องหรือยัง
อักษรศาสตร์ ห้องสมุด
ห้องสมุดที่ตึกเก่าของอักษร มีนิสิตชายคนหนึ่งไปอ่านหนังสือ เห็นนิสิตผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามก้มหน้าอ่านหนังสือนานมากไม่เงยหน้าซะที เลยถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ผู้หญิงเลยเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่า...ไม่มีหน้า
วิทยาศาสตร์ ตึกชีววิทยาทางทะเล
ชั้น 4 หรือชั้น 5 ไม่รู้ นิสิตที่อยู่ดึกบอกว่าเห็นเงาคน และแสงไฟวูบวาบบ่อยมากทั้งที่ไม่มีคน ลิฟต์ก็ชอบเปิดชั้นนี้ทั้งที่ไม่มีคนกดเรียก
ห้องน้ำแถวภาควิชาเคมี
อยู่ดีๆ บานประตูก็ปิดเอง (และล๊อคด้วย) บ่อยมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีลม และแน่นอน ไม่มีคนเข้า พอนิสิตไปถามยามยามก็บอกว่าชินแล้ว บอกอย่างทำใจได้ว่าถ้าเจอก็มาตามก็แล้วกัน จะไปช่วยไขกุญแจให้
ประตูอังรีฯ
เพื่อนเราอยู่คณะวิทยาศาสตร์ (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ แนน) ขับรถมาทางประตูรัฐศาสตร์ อังรีฯ จะวกรถออกไปแยกสุรวงศ์ เลยต้องไปรอเลี้ยวรถกลางถนน พอไฟส่องไปที่ใต้สะพานลอยฝั่งโรงพยาบาลจุฬา ก็เห็นคนนั่งยองๆ อยู่ใต้สะพาน ทุกอย่างเหมือนคนทั่วไป นอกจากหน้าเหมือนปูนปลาสเตอร์ที่ยังไม่แห้งแล้วโดนสาดน้ำน่ะ คือขาวๆ ย้อยๆ ไฟหน้ารถเธอจับอยู่นานพอดูเพราะต้องรอกลับรถ เมื่อเธอหันไปดูเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่นั่งมาด้วยกัน ก็ไม่มีทีท่าว่าเห็นอะไร เหมือนเธอเลย เธอก็เลยทำเฉยๆ กลัวว่าเพื่อนจะกลัว
เศรษฐศาสตร์
ประตูชั้นล่างที่จะออกไปโรงอาหารด้านหลัง ถูกกั้นไม่ให้เข้าออกเพราะเป็นทางผีผ่าน มีคนเห็นอะไรแปลกประหลาดมามากมาย
ชั้นที่มีห้องพักนิสิต ป.โท (ไม่รู้ชั้นไหน)
เพื่อนเราเพิ่งจบโทมาปีสองปี (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ โอชิน) เล่าว่า วันหนึ่งค่ำแล้วฝนตกหนักทุกคนกำลังจะกลับบ้าน แต่เลอะเทอะกันมากเลยกลับมาห้องพักนิสิตปริญญาโท เพื่อหลบฝนและล้างโคลน เพื่อนเราไปล้างโคลนคนเดียวในห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องพัก พอดีไฟดับ เพื่อนเราเลยโผล่ออกมาดูคนอื่นๆ ว่าเป็นไงบ้าง เห็นเงาดำๆ อยู่ห่างออกไปตรงทางเดิน ทำท่าเหมือนกำลังเดินเข้ามาหา เธอดูรูปร่างแล้วเลยเรียกชื่อเพื่อนผู้ชายในกลุ่มที่หุ่นแบบนี้ แต่เงาดำไม่ตอบ และเดินเท่าไหร่ก็ไม่ใกล้เข้ามาสักที แป๊บนึงอยู่ดีๆ เงาดำก็หายไป เพื่อนเราคนนี้ก็เหมือนคนที่แล้ว คือ ไม่ยอมบอกเพื่อนกลัวเพื่อนจะกลัว เดินกลับเข้าห้องไปรวมกลุ่มเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หอหญิง (ตึกดำ)
นิสิตคนหนึ่งเคยอยู่หอหญิงบอกว่าชั้น 10 เนี่ยดุสุดๆ คืนหนึ่ง นิสิตคนนั้นก่อนนอนกลัวว่าจะร้อน เลยเปิดประตูมุ้งลวดให้ลมเข้า คนที่นอนริมในสุดบังเอิญเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกพอดี เล่าว่ากลางดึกอยู่ดีๆ เธอก็ตื่นมา เมื่อมองไปนอกมุ้งลวด เห็นคนคลุมหัวเดินอยู่ ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นเพื่อนที่เป็นมุสลิมในชั้นเดียวกันนั้น แต่ร่างที่ว่าเดินเท่าไรก็ไม่พ้นหน้าห้องซักที เธอเลยรู้ว่าเจอดีเข้าแล้วก็เลยคลุมโปงนอนต่อ
วิศวกรรมศาสตร์ ห้องสมุด
เราไม่เคยเข้านะเลยไม่รู้ว่าห้องนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่า แต่ที่ได้ยินมาคือ เป็นห้องที่ดัดแปลงจากอาคารที่เดิมเป็นตึกเรียนเก่า กลางวันแสกๆ วันหนึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งเข้าไปค้นหนังสือในส่วนที่ห้ามนิสิตเข้า คือ ยืมได้แต่ห้ามเดินเข้าไปเองน่ะ ทีนี้อาจารย์ท่านนั้นกำลังก้มหน้าส่องหาหนังสืออยู่ตามชั้นต่างๆ
พอขยับหน้าผ่านไปตรงช่องว่างระหว่างหนังสือ ก็เห็นฝั่งตรงข้ามมีหน้าจ้องผ่านร่องหนังสือเข้ามา เห็นว่าใส่ชุดนิสิตอยู่ด้วย อาจารย์ตกใจและโกรธด้วยเลยเดินไปถามว่านิสิตเข้ามาได้ยังไง แต่พอเดินไปถึงช่องนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย ที่สำคัญพออาจารย์เดินหาจนทั่วพบว่า แม้แต่เจ้าหน้าที่ห้องสมุดเองก็ไม่อยู่ด้วยซ้ำไม่มีทางที่ใครจะมาโผล่หน้าให้เห็นได้ แต่เมื่ออาจารย์เดินกลับไปหาหนังสือที่ชั้นเดิมก็ได้กลิ่นฉุนกลิ่นเหม็นไหม้ที่แรงมาก
ห้อง Sound Lab
ห้องไหนไม่รู้และไม่รู้ด้วยว่าตึกที่ถูกทุบไปหรือตึกที่ยังอยู่ปัจจุบัน เพราะอักษรมี Sound Lab เยอะมาก อาจารย์หญิงท่านหนึ่งรับฝากชั้นเรียนไว้ได้รับคำฝากฝังให้เปิดเทปให้นิสิตฟังและคอยเช็คชื่อก็พอ ขณะกำลังเปิดเทป มีนิสิตหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หลังห้องไม่ยอมใส่หูฟัง อาจารย์เดินไปถามก็ตอบว่าเจ็บคอ พอตอนออกจากห้อง อาจารย์คอยเช็คชื่อ เห็นคนครบแต่ไม่มีชื่อเด็กคนที่ไปคุยด้วย และเด็กก็ไม่ยอมออกมาสักที เลยเดินกลับไปหา ไปดูที่โต๊ะก็ไม่เจอ แต่พอหันออกมาจะกลับเห็น เด็กยืนอยู่กลางห้องสายหูฟังพันคออยู่ และโยงไปที่เพดาน อาจารย์หมดสติไปเลย มาทราบทีหลังว่ามีเด็กเพิ่งฆ่าตัวตายในห้องนั้น
ห้องมืด (ห้องล้างฟิลม์) ของคณะนิเทศศาสตร์
เรื่องมีอยู่ว่า....เมื่อก่อนมีรุ่นพี่คนหนึ่งได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้ แล้วไม่ได้กลับออกมาอีกเลย....มีคนเข้าไปหาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีใครพบ...ได้มีนิสิตรุ่นน้องต่อๆ มาเล่าให้ฟังว่า ...ยังมี เรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นอีก เช่น มีนิสิตได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้ ขณะที่เข้าไปนั้นก็คิดว่าตนนั้นเข้าไปกับเพื่อน
ก็มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากเพื่อน...บอกให้หยิบของส่งให้ ก็มีคนหยิบส่งให้.....แต่พอออกมาเห็นเพื่อนของตนอยู่นอกห้อง จึงได้รู้ว่า ตนเข้าคนเดียว......แล้วใครล่ะที่เป็นคนหยิบของส่งให้.......ยังคงเป็นปริศนาอยู่
ทางเดินระหว่างตึกของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ทางเดินที่ว่านี้ มีประวัติอยู่ว่า สมัยก่อนมีสามีภรรยานักการของคณะสถาปัตย์ได้ทะเลาะกัน .....ฝ่ายภรรยาได้เอาปืนยิงสามี จนเสียชีวิตเลือดสาดไปทั่วหน้าห้องทางเดินนี้ต่อมาเมื่อทาง คณะได้มีการปรับปรุงพื้นชั้นหนึ่งได้มีการเทปูนไว้ แต่มีเฉพาะหน้าห้องนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมแห้ง ทิ้งไว้นานสักเท่าไรก็ไม่ยอมแห้ง
ทางคณะจึงต้องปูไม้กระดานทับไว้อย่าที่เห็นกันทุกวันนี้
ห้อง 415 หอพักนิสิตหญิงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เล่ากันว่าถ้าหากวันไหนตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ คนที่ตื่นขึ้นมาจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนอยู่ที่ปลายเตียง ดาดฟ้าตึกพยาธิวิทยา
ตอนดึกๆ หรือตอนเย็นๆ ใกล้ค่ำ ถ้าหากมีใครขึ้นไปบนดาดฟ้าจะเห็นคนยืนนุ่งชุดสไบสีขาว
ล๊อกเกอร์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์
ที่นั่นเคยมีคนเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่บนล๊อกเกอร์ทีแรกเห็นแต่ขาแต่ ว่าเมื่อมองขึ้นไปกลับไม่มีตัวตนอยู่เลย
ว่ากันว่าห้องล้างรูปรวมของศิล’กรรมน่ากลัวที่สุด นอกจากเรื่องเห็นขาแกว่งแล้ว ยังมีแสงลูกไฟสีต่างๆ แวบไปแวบมาในห้องล้างรูปอีกด้วย
(ซึ่งห้องล้างรูปจะต้องมืดหรืออาจให้มีแสงสีแดงได้สีเดียว) บางทีก็มีเสียงเก้าอี้นั่งรอล้างรูปดังอี๊ดอ๊าด ทั้งๆ ที่ไม่มีคนนั่งรอ หรือนิสิตบางคน ได้ยินเสียงคนตบแท็งค์น้ำในห้องล้างรูปทั้งๆ ที่ไม่มีคนอื่นในห้อง ว่ากันว่านิสิตขอให้คณะย้ายห้องหลายครั้งแต่คณะไม่มีงบฯ อันนี้เป็นข้อมูลหลายปีแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ย้ายห้องหรือยัง
อักษรศาสตร์ ห้องสมุด
ห้องสมุดที่ตึกเก่าของอักษร มีนิสิตชายคนหนึ่งไปอ่านหนังสือ เห็นนิสิตผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามก้มหน้าอ่านหนังสือนานมากไม่เงยหน้าซะที เลยถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ผู้หญิงเลยเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่า...ไม่มีหน้า
วิทยาศาสตร์ ตึกชีววิทยาทางทะเล
ชั้น 4 หรือชั้น 5 ไม่รู้ นิสิตที่อยู่ดึกบอกว่าเห็นเงาคน และแสงไฟวูบวาบบ่อยมากทั้งที่ไม่มีคน ลิฟต์ก็ชอบเปิดชั้นนี้ทั้งที่ไม่มีคนกดเรียก
ห้องน้ำแถวภาควิชาเคมี
อยู่ดีๆ บานประตูก็ปิดเอง (และล๊อคด้วย) บ่อยมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีลม และแน่นอน ไม่มีคนเข้า พอนิสิตไปถามยามยามก็บอกว่าชินแล้ว บอกอย่างทำใจได้ว่าถ้าเจอก็มาตามก็แล้วกัน จะไปช่วยไขกุญแจให้
ประตูอังรีฯ
เพื่อนเราอยู่คณะวิทยาศาสตร์ (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ แนน) ขับรถมาทางประตูรัฐศาสตร์ อังรีฯ จะวกรถออกไปแยกสุรวงศ์ เลยต้องไปรอเลี้ยวรถกลางถนน พอไฟส่องไปที่ใต้สะพานลอยฝั่งโรงพยาบาลจุฬา ก็เห็นคนนั่งยองๆ อยู่ใต้สะพาน ทุกอย่างเหมือนคนทั่วไป นอกจากหน้าเหมือนปูนปลาสเตอร์ที่ยังไม่แห้งแล้วโดนสาดน้ำน่ะ คือขาวๆ ย้อยๆ ไฟหน้ารถเธอจับอยู่นานพอดูเพราะต้องรอกลับรถ เมื่อเธอหันไปดูเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่นั่งมาด้วยกัน ก็ไม่มีทีท่าว่าเห็นอะไร เหมือนเธอเลย เธอก็เลยทำเฉยๆ กลัวว่าเพื่อนจะกลัว
เศรษฐศาสตร์
ประตูชั้นล่างที่จะออกไปโรงอาหารด้านหลัง ถูกกั้นไม่ให้เข้าออกเพราะเป็นทางผีผ่าน มีคนเห็นอะไรแปลกประหลาดมามากมาย
ชั้นที่มีห้องพักนิสิต ป.โท (ไม่รู้ชั้นไหน)
เพื่อนเราเพิ่งจบโทมาปีสองปี (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ โอชิน) เล่าว่า วันหนึ่งค่ำแล้วฝนตกหนักทุกคนกำลังจะกลับบ้าน แต่เลอะเทอะกันมากเลยกลับมาห้องพักนิสิตปริญญาโท เพื่อหลบฝนและล้างโคลน เพื่อนเราไปล้างโคลนคนเดียวในห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องพัก พอดีไฟดับ เพื่อนเราเลยโผล่ออกมาดูคนอื่นๆ ว่าเป็นไงบ้าง เห็นเงาดำๆ อยู่ห่างออกไปตรงทางเดิน ทำท่าเหมือนกำลังเดินเข้ามาหา เธอดูรูปร่างแล้วเลยเรียกชื่อเพื่อนผู้ชายในกลุ่มที่หุ่นแบบนี้ แต่เงาดำไม่ตอบ และเดินเท่าไหร่ก็ไม่ใกล้เข้ามาสักที แป๊บนึงอยู่ดีๆ เงาดำก็หายไป เพื่อนเราคนนี้ก็เหมือนคนที่แล้ว คือ ไม่ยอมบอกเพื่อนกลัวเพื่อนจะกลัว เดินกลับเข้าห้องไปรวมกลุ่มเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หอหญิง (ตึกดำ)
นิสิตคนหนึ่งเคยอยู่หอหญิงบอกว่าชั้น 10 เนี่ยดุสุดๆ คืนหนึ่ง นิสิตคนนั้นก่อนนอนกลัวว่าจะร้อน เลยเปิดประตูมุ้งลวดให้ลมเข้า คนที่นอนริมในสุดบังเอิญเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกพอดี เล่าว่ากลางดึกอยู่ดีๆ เธอก็ตื่นมา เมื่อมองไปนอกมุ้งลวด เห็นคนคลุมหัวเดินอยู่ ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นเพื่อนที่เป็นมุสลิมในชั้นเดียวกันนั้น แต่ร่างที่ว่าเดินเท่าไรก็ไม่พ้นหน้าห้องซักที เธอเลยรู้ว่าเจอดีเข้าแล้วก็เลยคลุมโปงนอนต่อ
วิศวกรรมศาสตร์ ห้องสมุด
เราไม่เคยเข้านะเลยไม่รู้ว่าห้องนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่า แต่ที่ได้ยินมาคือ เป็นห้องที่ดัดแปลงจากอาคารที่เดิมเป็นตึกเรียนเก่า กลางวันแสกๆ วันหนึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งเข้าไปค้นหนังสือในส่วนที่ห้ามนิสิตเข้า คือ ยืมได้แต่ห้ามเดินเข้าไปเองน่ะ ทีนี้อาจารย์ท่านนั้นกำลังก้มหน้าส่องหาหนังสืออยู่ตามชั้นต่างๆ
พอขยับหน้าผ่านไปตรงช่องว่างระหว่างหนังสือ ก็เห็นฝั่งตรงข้ามมีหน้าจ้องผ่านร่องหนังสือเข้ามา เห็นว่าใส่ชุดนิสิตอยู่ด้วย อาจารย์ตกใจและโกรธด้วยเลยเดินไปถามว่านิสิตเข้ามาได้ยังไง แต่พอเดินไปถึงช่องนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย ที่สำคัญพออาจารย์เดินหาจนทั่วพบว่า แม้แต่เจ้าหน้าที่ห้องสมุดเองก็ไม่อยู่ด้วยซ้ำไม่มีทางที่ใครจะมาโผล่หน้าให้เห็นได้ แต่เมื่ออาจารย์เดินกลับไปหาหนังสือที่ชั้นเดิมก็ได้กลิ่นฉุนกลิ่นเหม็นไหม้ที่แรงมาก
ห้อง Sound Lab
ห้องไหนไม่รู้และไม่รู้ด้วยว่าตึกที่ถูกทุบไปหรือตึกที่ยังอยู่ปัจจุบัน เพราะอักษรมี Sound Lab เยอะมาก อาจารย์หญิงท่านหนึ่งรับฝากชั้นเรียนไว้ได้รับคำฝากฝังให้เปิดเทปให้นิสิตฟังและคอยเช็คชื่อก็พอ ขณะกำลังเปิดเทป มีนิสิตหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หลังห้องไม่ยอมใส่หูฟัง อาจารย์เดินไปถามก็ตอบว่าเจ็บคอ พอตอนออกจากห้อง อาจารย์คอยเช็คชื่อ เห็นคนครบแต่ไม่มีชื่อเด็กคนที่ไปคุยด้วย และเด็กก็ไม่ยอมออกมาสักที เลยเดินกลับไปหา ไปดูที่โต๊ะก็ไม่เจอ แต่พอหันออกมาจะกลับเห็น เด็กยืนอยู่กลางห้องสายหูฟังพันคออยู่ และโยงไปที่เพดาน อาจารย์หมดสติไปเลย มาทราบทีหลังว่ามีเด็กเพิ่งฆ่าตัวตายในห้องนั้น
ห้องมืด (ห้องล้างฟิลม์) ของคณะนิเทศศาสตร์
เรื่องมีอยู่ว่า....เมื่อก่อนมีรุ่นพี่คนหนึ่งได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้ แล้วไม่ได้กลับออกมาอีกเลย....มีคนเข้าไปหาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีใครพบ...ได้มีนิสิตรุ่นน้องต่อๆ มาเล่าให้ฟังว่า ...ยังมี เรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นอีก เช่น มีนิสิตได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้ ขณะที่เข้าไปนั้นก็คิดว่าตนนั้นเข้าไปกับเพื่อน
ก็มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากเพื่อน...บอกให้หยิบของส่งให้ ก็มีคนหยิบส่งให้.....แต่พอออกมาเห็นเพื่อนของตนอยู่นอกห้อง จึงได้รู้ว่า ตนเข้าคนเดียว......แล้วใครล่ะที่เป็นคนหยิบของส่งให้.......ยังคงเป็นปริศนาอยู่
ทางเดินระหว่างตึกของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ทางเดินที่ว่านี้ มีประวัติอยู่ว่า สมัยก่อนมีสามีภรรยานักการของคณะสถาปัตย์ได้ทะเลาะกัน .....ฝ่ายภรรยาได้เอาปืนยิงสามี จนเสียชีวิตเลือดสาดไปทั่วหน้าห้องทางเดินนี้ต่อมาเมื่อทาง คณะได้มีการปรับปรุงพื้นชั้นหนึ่งได้มีการเทปูนไว้ แต่มีเฉพาะหน้าห้องนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมแห้ง ทิ้งไว้นานสักเท่าไรก็ไม่ยอมแห้ง
ทางคณะจึงต้องปูไม้กระดานทับไว้อย่าที่เห็นกันทุกวันนี้
ห้อง 415 หอพักนิสิตหญิงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เล่ากันว่าถ้าหากวันไหนตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ คนที่ตื่นขึ้นมาจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนอยู่ที่ปลายเตียง ดาดฟ้าตึกพยาธิวิทยา
ตอนดึกๆ หรือตอนเย็นๆ ใกล้ค่ำ ถ้าหากมีใครขึ้นไปบนดาดฟ้าจะเห็นคนยืนนุ่งชุดสไบสีขาว
ล๊อกเกอร์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์
ที่นั่นเคยมีคนเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่บนล๊อกเกอร์ทีแรกเห็นแต่ขาแต่ ว่าเมื่อมองขึ้นไปกลับไม่มีตัวตนอยู่เลย